ผีโป่ง กระโปรงแดง หนองหอย

ผีโป่ง กระโปรงแดง หนองหอย

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีครอบครัวเล็กๆ  มีพ่อแม่และลูกชายสองคนกำลังนั่งกินข้าวปลาอาหารเช้ากัน  แม่เอ็งกินข้าวเสร็จแล้วเตรียมอาหารเที่ยงและน้ำดื่มไว้ด้วยนะผู้เป็นพ่อกล่าว วันนี้เราจะไปนาไปทำแปลงปลูกผักกัน 

ไปนาต้องเอาควายไปเลี้ยงด้วย

เอ็งสองคนด้วยเจ้าดำและแดง  จุงควายไปนาให้พ่อด้วย พ่อบอกลูกชายทั้งสอง ครับพ่อ  ดำกับแดงตอบพร้อมกัน  ว่าแต่พ่อจะไปนาตรงไหนล่ะวันนี้ดำผู้เป็นพี่ชายถามพ่อ พ่อจะไปนาหนองหอยเพื่อทำแปลงปลูกผักชีเอาไว้ขาย  จะได้มีตังค์ส่งเอ็งสองคนไปเรียนต่อไงล่ะลูก  

เมื่อคืนพ่อดูข่าวในทีวีเห็นท่านนายกประหยัดบอกว่าผักชีกิโลละตั้ง 200 บาทแน่ะ  พ่อพูด หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จเวลาก็ประมาณ 8โมง ถึง 9 โมงเช้า ดำและแดงก็รีบไปจุงเชือกควายไปนา  ส่วนพ่อกับแม่ก็ได้ข้าวปลาอาหารน้ำดื่ม  และอุปกรณ์การเกษตร  

ดำและแดงอายุห่างกันเพียง 2 ปี ดำอายุ 8 ขวบส่วนแดงเพียง 6 ขวบ พอถึงที่นาแล้วพ่อก็พูดขึ้นว่า  ดำเอ้ยแดงเอ้ยพาน้องเอาควายไปผูกแถวๆหนองหอยโน่นนะลูก  แถวนั้นหญ้าขึ้นเยอะ ครับพ่อ  หากผูกควายเสร็จแล้ว  ผมกับน้องขอเล่นแถวทางควายนะพ่อคำพูดกับพ่อ

ดูแลน้องด้วยนะลูกพ่อบอกดำ จากนั้นดำจึงเอาควายไปผูกไว้ใกล้ๆหนองหอยเพื่อให้มันหากินหญ้าแถวๆนั้น  ส่วนแดงรออยู่ตรงทางควายใต้ต้นไม้

เด็กๆชอบเล่นทรายตรงทางควาย

ทางควายคือทางดินที่ชาวบ้านเอาไว้เป็นทางไล่วัวไล่ควายไปนาเพื่อไม่ให้วัวควายเดินย่ำนาข้าวนั่นเอง  หากใครที่มีฐานะหน่อยก็จะใช้วัวลากเกวียนวิ่งบนทางควายนี้ได้เลย หน้าฝนหรือหน้าทำนาตรงทางควายจะเละเทะมากๆ  ทั้งน้ำขังทั้งขี้วัวขี้ควายเละไปหมด  

แต่พอหน้าแล้งก็จะแห้งกลายเป็นทางดินทราย  เด็กๆลูกบ้านนามักจะมาเล่นดินทรายตรงทางควายกัน  คล้ายกับเด็กในเมืองที่ไปเล่นทรายหาดทะเลนี่แหละ

แดงก็เช่นกันในระหว่างที่รอพี่ชายไปผูกควาย  แดงก็ใช้กระลาตักดินทรายตรงทางควายเล่น  พอตักทรายเต็มกระลาแดงก็โยนขึ้น  ทรายก็ปลิวกระจายฟุ้งไปทั่ว  บางทีทรายก็ร่วงใส่หัวร่วงใส่หน้า  บางครั้งกระลาก็ตกใส่หัวตัวเองเล่นตามประสาเด็กบ้านนา

ในระหว่างที่ทรายกระจายฟุ้งไปทั่วแดงไม่ทันเห็นว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่  ใกล้ๆกับที่เขาเล่นอยู่ แดงไม่ทันเห็นว่าเด็กคนนั้นเดินมาจากทางไหนมาตั้งแต่เมื่อไหร่  แดงจึงชวนเด็กผู้หญิงคนนั้นมาเล่นด้วยกัน เด็กๆเล่นกันอย่างสนุกสนานเสียงหัวเราะดังเจี๊ยวจ๊าวกันเลยทีเดียว

ดำหลังจากผูกควายเสร็จก็เดินกลับมาหาน้องที่รออยู่  ดำมองมาแต่ไกลเห็นว่าแดงน้องชายของเขากำลังเล่นอยู่กับใครอย่างสนุกสนาน นั่นไอ้แดงน้องเรามันกำลังเล่นอยู่กับลูกใครหว่าดำพูดคนเดียว

ผีโป่งกระโปรงแดง
ผีโป่งกระโปรงแดง

คุยกับผีโป่งเด็กชุดแดง

พอมาถึงใกล้ๆ ดำสังเกตเห็นว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดแดง  กระโปรงแดงหมวกแดง ทุกอย่างเป็นสีแดงไปหมดเลย แต่ดำก็ไม่ได้คิดอะไรไปมาก นอกซะจากเด็กคนนั้นคงจะเป็นลูกของเจ้าของที่นาข้างๆเรานี่ละมั้งคงจะมาหาเพื่อนเล่น

พอดำเดินมาถึงแดงเห็นพี่ชายจึงเรียกมาเล่นด้วยกัน  พี่ดำพี่ดำมาเล่นด้วยกันมาเร็ว  ไม่ต้องไปหาพ่อกับแม่หรอกมาเล่นตรงนี้กันดีกว่า แดงพูด

ดำถาม เด็กผู้หญิงชุดแดงคนนั้นว่า  นี่นาเอ็งอยู่ตรงไหนรึ  ทำไมมาเล่นกับแดงได้  ดำถาม พอได้ยินเสียงดำพูดเช่นนั้นเด็กผู้หญิงชุดแดงคนนั้นก็หันหน้ามามองดำด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วตอบเสียงแหลมๆว่า

ที่นากูก็อยู่ตรงนี้แหละ  ดำรู้สึกมึนๆงงๆ  พูดขึ้นว่าเนี่ยถามดีๆนะ  ตรงนี้มันที่นาเรากับน้องเราต่างหากโน่นไงพ่อกับแม่เรากำลังทำสวนอยู่โน่นแน่ะ ดำพูดพร้อมชี้มือไปทางพ่อกับแม่อยู่ไกลๆ

เด็กผู้หญิงชุดสีแดงทำหน้าบึ้งตึงพูดขึ้นอีกว่า  ที่นาตรงนี้มันเป็นที่ของกูและต้นไม้ต้นนี้ก็ของกูไม่ใช่ของพวกมึง

ดำ กับเด็กผู้หญิงชุดแดงเถียงกันไปมาเหมือนกับเด็กๆเล่นกันแล้วเถียงกันยังไงยังงั้นเลย  ส่วนแดงยังเล่นตามประสาไม่สนใจใคร

เล่าให้พ่อแม่ฟังว่าเจอผี

ทันใดนั้นก็มีเสียงใครบางคนดังมาแต่ไกลๆ  ดำเอ้ยแดงเอ้ยพาน้องมากินข้าวเร็วลูก  เสียงของพ่อนี่เองดำกับแดงก็วิ่งไปหาพ่อเพื่อไปกินข้าวเที่ยงกัน  โดยลืมเพื่อนหญิงชุดแดงที่อยู่ตรงนั้นไปเลย

ในระหว่างกินข้าวดำเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่า  ก่อนพ่อจะไปเรียกตนกับน้องมากินข้าวได้มีเด็กจากนาข้างๆนาเรามาเล่นด้วย

มันบอกว่านาเราคือนาของมันต้นไม้ใหญ่ตรงทางควายก็ของมัน  แต่ที่ตรงนั้นมันเป็นเขตนาเราไม่ใช่หรือพ่อดำถาม

แม่ถามดำด้วยความสงสัยอย่างมากๆว่า  ที่นาข้างๆเรามันเป็นที่นาของป้าข้างๆบ้านเรานี่เองนะลูก  และป้าแกก็อยู่คนเดียวไม่มีลูกหลานนะใช่ไหมพ่อ  แม่ถาม

เออพ่อก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครแถวๆนี้จะมีลูกเท่าๆพวกเอ็งมาเล่นแถวนี้สักครั้งเลยนะพ่อกล่าว เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงล่ะลูกพ่อถามดำ

เป็นเด็กผู้หญิงครับ ใส่ชุดแดงกระโปรงแดงหมวกแดง ดำบอกพ่อ ผู้เป็นพ่อแม่ถึงกับงวยงงและประหลาดใจยิ่งนักกับคำว่าเด็กผู้หญิงใส่ชุดแดงแบบนั้น เอ็งพาพ่อไปดูซิจะได้เรียกมากินข้าวด้วยกัน พ่อบอกดำ

ไปสิพ่อผมจะพาไปดูดำบอก  มันจะได้รู้ว่าที่นาตรงนี้มันเป็นที่นาเราไม่ใช่ของมัน พอไปถึงตรงต้นไม้ใหญ่ดำบอกพ่อว่าตรงนี้แหละพ่อที่มันยืนอยู่ตรงนั้นแหละดำชี้ไปที่โคนต้นไม้ใหญ่ ไม่รู้ตอนนี้มันไปไหนแล้วสงสัยไปฟ้องแม่แล้วมั้ง ดำพูด

พ่อเริ่มขนหัวลุกซู่ ไม่รู้ว่าพ่อเห็นอะไรหรือรู้ว่าอะไรเป็นอะไร อยู่ๆขนหัวก็ลุกเย็นวาบขึ้นมา ดำดำดำลูกรีบวิ่งไปบอกแม่กับน้องให้รีบเก็บของกลับเข้าหมู่บ้านให้เร็ว  ส่วนพ่อจะไปแก้มัดควายพ่อจะเอาควายกลับเข้าบ้านเอง  ไปเร็วๆลูก  พ่อบอกดำ

ระหว่างจุงควายกลับบ้านพ่อก็พูดคนเดียวว่า ผีโป่งผีโป่งแน่ๆ  เด็กที่ไหนจะมาใส่ชุดแดงในป่ากลางนาแบบนี้  ลูกลูกลูกเราเจอผีโป่งกระโปรงแดงหลอก  

เจ้าป่าเจ้าเขาผีโพงผีโป่ง เทวดาอารักษ์นางไม้แม่ธรณี   ได้โปรดอย่าถือสาลูกๆของข้าพเจ้าเลย ที่ไปเล่นไม่รู้ประสีประสาให้อภัยลูกๆข้าพเจ้าด้วยเทอญสาธุ  

ลูกโดนผีหลอกไม่รู้ตัว

ในคืนนั้นพอพวกเด็กๆเข้าบ้านนอนกันหมดแล้วพ่อกับแม่ที่นอนไม่หลับก็ได้ปรึกษากัน ทำยังไงดีล่ะแม่ลูกเราถูกผีโป่งหลอก ตั้งแต่พ่อเกิดมาเคยได้ยินแต่คนเขาพูดกันว่า เวลาไปไร่ไปนาคนเดียวระวังผีโป่งดักทางนะ  ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าผีโป่งกระโปรงแดงจะมาหลอกลูกเรากลางวันแสกๆ พูดแล้วก็ขนหัวลุก

พรุ่งนี้แม่จะทำกับข้าวปลาอาหารของคาวหวานสุรายาสูบเตรียมไปเซ่นไหว้ตรงโคนต้นไม้ตรงทางควายที่นาหนองหอย และจะชักชวนชาวบ้านไปทำพิธีเรียกขวัญลูกๆเราด้วย แม่พูด

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านมาได้หลายปีแล้วดำและแดงก็เติบโตเป็นหนุ่มแล้ว เขาจำความได้ทุกอย่างแต่เขาไม่เข้าใจหรอกว่าผีโป่งเป็นยังไง แต่เขาก็จำจากการบอกเล่าของพ่อแม่ว่าเด็กผู้หญิงชุดแดงที่พวกเอ็งเจอตอนเด็กๆ 

มันคือผีโป่งกระโปรงแดง

มันคือผีโป่งกระโปรงแดงที่ชาวบ้านหลายๆ คนก็เคยเห็นมาแล้วเหมือนกับลูก ซึ่งผีเขามาดีจึงทำให้ลูกไม่รู้สึกกลัวหรือตกใจอะไรเลย แต่หากวันไหนดำหรือแดงต้องจุงควายผ่านต้นไม้ใหญ่นาหนองหอย ถึงเขาจะไม่ได้คิดอะไรเลยเพราะมันผ่านมานานแล้ว  แต่มันก็ขนลุกซู่  ขนหัวลุกซู่เย็นวาบขึ้นมาเองทุกทีที่ผ่านตรงนั้นจนถึงทุกวันนี้ เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงๆ ได้จบลงแล้ว บทความเสียงเรื่องผีโป่งกระโปรงแดง