
วัยรุ่นสร้างตัว เตรียมตัวอย่างไร กับการมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง
หนึ่งในปัจจัย 4 คือที่อยู่อาศัย “บ้านแต่ละหลังอาจจะแตกต่างกันแต่มีสิ่งหนึ่ง ที่มีเหมือนกันคือมีไว้พักอาศัย” ไม่ว่าจะเป็นบ้านตัวเอง บ้านพ่อแม่ บ้านญาติ บ้านเช่า บ้านเดี่ยว บ้านแฝด คอนโด อาคารพานิชย์ ซึ่ง การคิดจะซื้อบ้านสักหลังสำหรับวัยรุ่นสร้างตัวอย่างเราแค่คิดก็เหนื่อยแล้วคงเป็นไปได้ยาก เพราะฉนั้นสิ่งที่ผู้เขียนจะแนะนำคือ “จะเตรียมตัวอย่างไรสำหรับการมีบ้านสำหรับคนกำลังจะเข้าสู่ชีวิตการเริ่มต้นทำงาน”
1. ออมเงินให้เป็นนิสัย
ฝึกออมกันตั้งแต่วัยกำลังเรียนจะดีมาก หรือถ้าหากยังไม่เคยคิดจะมีบ้านเพราะยังเด็ก ก็ถือว่าเก็บเงินไว้ยามฉุกเฉิน หรือซื้อของที่อยากได้ อย่างน้อยก็ช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยควรฝึกให้มีวินัยทางการเงิน เพื่อเตรียมสำหรับการจบออกมาทำงานจะได้มีเงินเริ่มต้น หากคุณมีวินัยทางการเงินมากพอจงเก็บออมเป็นนิสัย เมื่อเริ่มทำงานคุณจะได้ไม่มีความกังวลในเรื่องการใช้จ่ายเลย ส่วนประวัติการออมเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากในการยื่นขอสินเชื่อต่าง ๆ เมื่อถึงเวลาที่คุณคิดว่าจะซื้อมัน
- เทคนิคการออมเบื้องต้น เริ่มจากลองเก็บเงินโดยเก็บจากที่ผู้ปกครองให้ไว้ใช้จ่าย หรือรายได้พิเศษจากการทำงานพิเศษ เทคนิคการเก็บเงินที่มีประสิทธิภาพคือ “ออมก่อนใช้”
- ตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะเก็บก่อนเดือนละเท่าไหร่ และส่วนที่เหลือก็นำมาบริหารใช้ให้พอกับการกินอยู่ เพราะถ้าใช้ก่อนแล้วเหลือค่อยเก็บ มั่นใจได้เลยว่าไม่เหลือแน่นอนสำหรับวัยเรียนหรือเริ่มทำงาน
- เมื่อเก็บเงินได้ให้เริ่มเดินบัญชีหรือฝากธนาคารให้สม่ำเสมอ เพราะจะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเราเก็บได้เท่าไหร่ แนะนำเป็นบัญชีฝากประจำเพราะจะถอนยากกว่าบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา
- ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน แล้วเราจะทราบว่าแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็น เพื่อลดรายจ่าย หรือจะได้ทราบความสามารถของตัวเองว่ายังมีความสามรถที่จะใช้จ่ายเงินได้อีกเท่าไหร่
2. ปลอดหนี้เครดิตจะดีกว่า
เมื่อคุณเริ่มทำงาน เทคนิคง่ายๆ ที่ควรท่องจำไว้คือ “มีบ้านก่อนมีรถ” เพราะการซื้อรถถือว่าง่ายกว่าการซื้อบ้านด้วยราคาที่ต่ำกว่า หลายคนให้ความสำคัญกับการมีรถหลังจากเรียนจบหรือเริ่มทำงาน ซึ่งการซื้อรถจะทำให้การซื้อบ้านทำได้ยากมาก ด้วยเงินเดือนเริ่มต้นทำงานอาจจะไม่ได้สูงมาก ซึ่งอาจทำให้กู้ไม่ผ่านหรือกู้ได้น้อย ไม่สามารถซื้อบ้านหลังที่ต้องการได้ แนะนำให้อดทนทำงานให้ครบปี แล้วกู้ซื้อบ้านก่อน

ควบคุมบัตรเครดิต มีได้แต่ต้องระมัดระวังในการใช้ หากมีการผ่อนต้องผ่อนให้สม่ำเสมออย่าค้างชำระหรือทำให้เสียประวัติ แนะนำเป็นบัตรที่มีการชำระเป็นเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำ ซึ่งในการพิจารณาจะเลือกมองยอดชำระที่เป็นรายเดือน แต่ทางที่ดียังไม่ต้องมีจะเป็นเรื่องง่ายกว่า หากมีก็เคลียร์ให้หมดก่อนการยื่นกู้ซื้อบ้าน
3. เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด
อย่าพยายามค้ำประกันเงินกู้ต่างๆ หรือกู้ร่วมในวงเงินอื่นๆ ให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นญาติ หรือเพื่อน เพราะจะทำให้เครดิตคุณหายไป ยิ่งถ้าคนที่คุณค้ำประกันให้ มีหนี้เสียจะทำให้คุณเสียเครดิดไปด้วย เมื่อถึงเวลาที่คุณอยากจะกู้ซื้อบ้านเป็นของตัวเองจะทำให้คุณอาจกู้ไม่ผ่าน ยิ่งถ้าเป็นการค้ำประกันหนี้ระยะยาว กว่าเค้าจะผ่อนหมดคุณจะเสียเวลา เสียโอกาสไปเยอะ ยิ่งนานบ้านก็จะยิ่งแพงจนอาจไม่สามารถซื้อได้null
อ่านเรื่องแนะนำ